อยากเกษียณตอนอายุ 50 ต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่ ???
มีหลายคนที่ตั้งเป้าชีวิตไว้ว่า จะสามารถหยุดทำงาน “หนัก” ซึ่งหมายการทำงานหาเงินเพื่อสร้างความมั่นคง ตอนอายุ 50 ปี และหลังจากนั้นจะไม่ทำงานแล้ว หรืออาจจะทำต่อไปก็ได้ แต่จะไม่ใช่การทำงานหนักเพื่อเลี้ยงชีพ อาจจะเป็นแค่การทำงานที่ชอบ หรืองานที่ฝันไว้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงผลตอบแทนเป็นตัวเงินอย่างเคร่งครัด เหมือนตอนที่อายุยังไม่มาก ไม่มีความมั่นคงทางการเงินพอที่จะทำแบบนั้นได้
.
คำถามแรกที่จะต้องถามตัวเองก็คือ คุณคิดว่า ตัวเองจะมีอายุยืนยาวมากที่สุดได้อีกกี่ปี
.
สมมุติว่า คุณคิดว่าตัวเองจะมีอายุยืนยาวถึง 90 ปี นั่นหมายถึง ถ้าคุณคิดจะเลิกทำงานตอนอายุ 50 ปี คุณจะต้องมีเงินพอใช้ สำหรับระยะเวลา 40 ปี โดยไม่ต้องทำงาน
.
กรณีที่ยกมาสมมุตินี้ คือคุณต้องมีบ้านมีรถเป็นของตัวเอง ที่ผ่อนหมดแล้ว ไม่มีหนี้สินหรือภาระอื่นๆแล้ว เอาแค่ค่าใช้จ่ายในการมีชีวิตอยู่อย่างเดียว
.
สมมุติอีกทีว่า คุณคิดเรื่องนี้ตอนอายุ 35 และระหว่างนี้ไปจนถึงอายุ 40 คุณมีค่าใช้จ่ายประจำเดือนละ 50,000 บาท
คิดเป็นปีละ 600,000 บาท
.
ค่าใช้จ่ายในการมีชีวิตอยู่ที่สมมุติเดือนละ 50,000 นี้ มาจากกลุ่มตัวอย่างอายุ 35 ปี ที่มีรายได้ประมาณเดือนละ 50,000-100,000 บาท (ถือเป็นรายได้ระดับผู้จัดการถึงผู้อำนวยการ)
.
ค่าใช้จ่ายพื้นฐานนี้ประกอบด้วย ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทร ค่าเดินทาง ค่าประกันรถ ค่าดูแลรถ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ภาษีสังคม ค่าแต่งตัว ค่าดูแลที่อยู่อาศัย ค่ารักษาพยาบาล ค่าประกันสุขภาพ ค่าใช้จ่ายสำหรับงานอดิเรกและเดินทางท่องเที่ยว และพอถึงตอนแก่ก็อาจจะต้องรวมค่าจ้างคนดูแลเข้าไปด้วย
.
ถ้าคุณตั้งใจเกษียณตอนอายุ 50 ปี คุณก็จะเหลือเวลาทำงาน 50-35 = 15 ปี เพื่อที่จะหาเงินให้พอใช้สำหรับ 15 ปี(ก่อน50) + 40 ปี (หลัง50) … รวม 55 ปี
คิดเป็นจำนวนเงินขั้นต่ำ 55ปี X 600,000 บาทต่อปี = 33,000,000 บาท
คำตอบแบบซื่อๆ (แบบไม่ต้องคิดถึงเรื่องเงินเฟ้อและวิกฤตฉุกเฉิน) คือ ถ้าคุณสามารถหาเงิน 33 ล้านบาท ให้ได้ภายใน 15 ปี ของระยะเวลาการทำงานที่เหลืออยู่ คุณก็น่าจะเกษียณตัวเองตอนอายุ 50 ปีได้สบายๆ
.
การหาเงินให้ได้ 33 ล้านภายใน 15 ปี
ในทางปฏิบัติ อาจหมายถึง คุณต้องออมเงินหรือหาเงินฝากให้ได้ปีละ 2,200,000 บาท หรือเฉลี่ยเดือนละ 183,333 บาท เป็นอย่างต่ำ
.
และนอกจากหาเงินมาเก็บแล้ว ยังต้องหาที่ฝากเงินหรือหาการลงทุนความเสี่ยงต่ำ เพื่อให้ผลตอบแทนจากเงินสดที่คุณออมไว้นั้น ชนะค่าเงินเฟ้อที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆในแต่ละปี
.
การมีเงินออม 33 ล้านบาทในวัย 50 นั้น อาจเป็นเรื่องที่ไม่ต้องคิดหนัก สำหรับคนที่มีเงินถุงเงินถัง แต่อาจเป็นเรื่องที่ฟังดูเหลือเชื่อหรือยากเย็นแสนเข็ญสำหรับบางคน ขนาดยังไม่ต้องพูดถึงเงินเฟ้อก็อาจจะปวดไมเกรนแล้ว…คิดไปก็ปวดหัว งั้นเลิกคิดไปเลยดีไหม
.
คำตอบคือ ไม่ว่าคุณจะคิดหรือไม่คิด หากคุณมีชีวิตยืนยาวไปจนถึง 90 จริงๆ การไม่มีเงินพอสำหรับการดูแลตัวเอง โดยไม่หวังพึ่งพาคนอื่นย่อมเป็นปัญหาแน่ๆ และการที่คุณทำเป็นลืมๆ ไม่คิดถึงปัญหานั้น ไม่ได้ทำให้ปัญหาหมดไป
.
ใครที่อยากมีอายุยืนยาว และอยากมีความสุขตลอดอายุขัย…จึงต้องวางแผนการเงินให้ดีตั้งแต่เนิ่นๆ
