คนเราไม่ควรกลัวมากไปในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น / เพ็ญประภา เดชะราช

ดังที่รู้ๆกันว่า ตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในสายงานด้านการเงินการธนาคารนั้น มีไว้สำหรับบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเป็นเลิศระดับผู้นำ ซึ่งไม่ได้เก่งกาจแต่ในด้านการทำงานกับการบริหารตัวเลขหรือเงินๆทองๆเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องมีความสามารถที่โดดเด่นในการบริหารองค์กรให้ประสบความสำเร็จ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า ดาวสังคมสาวเก่งที่มีบุคลิค มาดมั่น เจ้าของไลฟ์สไตล์สุดเปรี้ยว อย่าง คุณแพ๊ท  เพ็ญประภา เดชะราช นั้นย่อมจะต้องเป็นหนึ่งในนักการธนาคารระดับหัวกะทิแห่งวงการ เธอจึงได้รับความไว้วางใจให้รับภารกิจสำคัญ ในตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการ ของสถาบันการเงินระดับอินเตอร์ RHB OSK Securities (Thailand) PCL.  ซึ่งเป็นธนาคารและบริษัทหลักทรัพย์ที่มีรัฐบาลมาเลเซียถือหุ้น ใหญ่ 60% มีสาขาครอบคลุมทั่ว Asean

ก่อนจะมาทำงานในภูมิภาคเอเซีย คุณแพ๊ทเป็น New Yorker ที่มีวิถีชีวิตเลิศหรู ในสังคมชั้นสูงของเหล่านักการเงินการธนาคารในอเมริกา เพราะมีอดีตหวานใจที่ทำงานในสถาบันการเงินจนประสบความสำเร็จมั่งคั่ง และยังเป็นแรงบันดาลใจให้สาวสวยคนนี้หันเหเส้นทางชีวิตเข้ามาในสายงานด้านการเงินการธนาคาร จนในที่สุดกลายมาเป็นงานที่เธอทำได้ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในปัจจุบัน แม้จะเป็นงานที่ฟังแล้วยากไม่เบาในบทบาทที่ปรึกษาทางการเงิน และการลงทุนในประเทศไทยและต่างประเทศ  เช่น ควบกิจการ,เอาหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ IPO,กู้เงินระหว่างประเทศ รวมถึง Bonds and Cross Selling

คุณแพ๊ท เพ็ญประภา เดชะราช (Penprapa  Decharaj) เป็นทายาทของครอบครัวนักธุรกิจไทยย่าน West Village New York  Manhattan ที่ทำธุรกิจด้าน Logistics และ whole sale seafood ภายใต้ชื่อ  Captain nemo ซึ่งมีสินค้ายอดนิยมอย่าง King Crab and Lobster เป็นที่รู้จักโด่งดังในอเมริกา แต่หลังจากคุณพ่อคุณแม่จากไป ครอบครัวก็ได้ตัดสินใจขายกิจการ เพราะลูกๆไม่สนใจจะทำธุรกิจด้านนี้

สำหรับตัวคุณแพ๊ทเอง เมื่อค้นพบความชอบในสายงานด้านการเงินการธนาคาร เธอก็มุ่งหน้าทำงานในแวดวงนี้มาตลอด โดยได้ร่วมงานกับสถาบันการเงินชั้นนำมากมายในระดับสากล เช่น เคยดำรงตำแหน่ง Investment  Position  Consultant in  Asia Pacific  ที่ Alliance  International  in San Diego CA เคยเป็น Vice President ของ Millenium DatanamaPosition ใน Indonesia จากนั้นก็กลับมาทำงานที่เมืองไทย โดยดำรงตำแหน่ง Executive  Vice President ของ UOB KayHain  Securities(Thailand) ก่อนจะมาเป็นผู้บริหารของ RHB OSK Securities (Thailand) ในปัจจุบัน

“Inspirations ในการทำงานสถาบันการเงิน มาจากแฟนเก่าทำงานที่ Morgan Stanley ค่ะ เพราะตอนนั้นได้ใช้ชีวิตอยู่ที่ USA.Manhattan NYC. แพ๊ทอาศัยอยู่ที่ตึก Trump Building  on Upper Westside เป็นเวลา 10 ปี ตึกนี้ Facilities are very Luxury และห้องที่พักจะหันไปทางแม่น้ำ Hudson River  มีระเบียงสวยหน้าร้อนอากาศจะดี หน้าหนาวเป็นน้ำแข็งสามารถเดินข้ามฝั่งไป New Jersey ได้เลย แฟนเป็นคนซื้อCondo นี้ ตึกราคาค่อนข้างแพงมากๆ แต่ที่เค้าสามารถซื้อตึกนี้ได้ เพราะเค้าทำสถาบันการเงิน ทำให้เกิดจุดหักเหของชีวิตและเป็นช่วงที่ต้องกลับมาบริหารกิจการที่บ้าน หลังจากคุณพ่อและคุณแม่ได้จากโลกนี้ไป รวมถึงเห็นเพื่อนๆหลายๆคนที่ทำสถาบันการเงินในเมืองนอกประสบความสำเร็จกันทุกคน

ตอนที่ได้ใช้ชีวิตที่ USA. เป็นเวลาที่แพ๊ทได้ใช้ชีวิตคุ้มมากๆ ได้สัมผัสกับผู้คนหลากเชื้อชาติ ได้เดินทางท่องเที่ยวรอบโลก เพราะถือปรัชญาจากคุณพ่อและคุณแม่ ท่านบอกว่า ให้รู้เรียนรู้โลกและเดินทางเที่ยวให้ทั่วโลกตอนยังเด็กหากมีโอกาส อย่ามาเรียนรู้เมื่อตอนแก่ เพราะจะเป็นภาระและลำบากแก่ลูกหลาน ตอนแก่ให้ทำคุณประโยชน์ให้สังคมมากที่สุด

คุณแม่ท่านจะสอนเสมอว่า ไม่มีคำว่าสายหรืออย่าผลัดวันประกันพรุ่ง ซื่อสัตย์และอดออมและอดทน สิ่งดีๆจะตามมาเองในภายหลัง  ประกอบกับตอนเด็กๆคุณพ่อและคุณแม่สอนให้รู้จักช่วยเหลือตัวเองและรู้จักบริหารการเงิน เพราะที่บ้านจะให้เงิน 1 ก้อน แล้วไปบริหารการใช้เอาเอง เพราะถ้าหมดเงินต้องยืมคุณแม่แต่ตอนคืนต้องมาพร้อมกับดอกเบี้ย”

ด้วยพื้นฐานครอบครัวที่หล่อหลอมให้เธอเป็นคนที่รู้จักต่อสู้ ช่วยเหลือตัวเอง ทำให้เธอเป็นคนที่มีความกล้าหาญในการตัดสินใจและไม่เกรงกลัวต่ออุปสรรคในชีวิต

“การทำงานที่เมืองนอกตอนเป็น  Sale Manager ต้องคุมต่างชาติประมาณ 20 คน เพื่อให้การทำงานไปในทิศทางเดียวกัน การทำงานในหมู่คนมากและเราเป็นเอเชียต้องทำงานร่วมกับหลายๆชาติ ต้องทำงานหนักมากๆและทำให้เค้าเห็นว่าเรารู้จริง ไม่ใช่มั่วนิ่มและต้องทำให้เค้าทั้งหลายยอมรับเรา คือเราต้องมีจุดยืนของเรา และเมื่อตัดสินใจว่าจะก้าวเข้ามาทำงานสถาบันการเงินเต็มตัว ตัดสินใจว่าจะกลับมาอยู่ประเทศไทย ก็เป็นจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของชีวิต เพราะเราอยู่อเมริกามาตลอด เป็นความเปลี่ยนแปลงที่มาพร้อมอุปสรรคมากมาย แต่ท้ายที่สุดก็ผ่านจุดที่ยากลำบากมาได้ด้วยดี แม้จะต้องอาศัยเวลามากก็ตาม ซึ่งก็โชคดีที่แพ๊ทเป็นคนลุยชอบทำงานแบบลุยๆ  เปรียบเหมือนอยู่แนวหน้า (Front Line) ถ้าสงสัยหรือไม่เข้าใจอะไรจะหาคำตอบให้ได้ และพร้อมที่จะ take actions ทันที เหมือนเวลาเดินทางท่องเที่ยวจะศึกษาข้อมูลก่อนและจะถามคนท้องถิ่นจะไม่ปล่อยให้เสียเวลาในการเดินวนไปมา คือเป็นคนชอบวางแผนก่อนทำอะไร เพราะถูกสอนและหล่อหลอมมาจากครอบครัว เช่น อยากได้สิ่งไหนก็ต้องทำ Project มาเสนอคุณพ่อคุณแม่ก่อนที่จะได้รับเงิน และหลังจากได้กำไรต้องเอาเงินต้นมาคืนท่าน แพ็ทเป็นคนชอบทำในสิ่งที่เราถนัด จะสนุกและมีความสุขกับสิ่งที่เราทำ”

เห็นภายนอกเป็นคนเปรี้ยวสุดๆอย่างนี้ แต่สิ่งที่สาวเก่งอย่างคุณแพ๊ทใช้เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวยามประสบความยากลำบากคือธรรมะ

“แพ๊ทใช้ธรรมะและนึกถึงคุณพ่อและคุณแม่ตอนที่ท่านทำธุรกิจ  และนึกถึงคนที่เค้าแย่กว่าเราจะทำให้เราผ่านจุดนี้ไปได้ค่ะ แต่ชีวิตทั่วไปก็โอเค แพ๊ทเป็นคนที่ชอบสนุกและมีเพื่อนเฮฮาสังสรรค์ จะเป็นคนที่ Balance ทุกสิ่งลงตัว เพราะโดนฝึกตั้งแต่ตอนเด็กๆ ให้ช่วยเหลือตัวเองค่ะ

เพื่อนฝูงที่สนิทกันจะรู้ว่าแพ๊ทเป็นคนที่รักและจริงใจกับคนรอบข้าง แต่จะเป็นคนที่อุปนิสัยแข็ง และพูดตรงๆไม่ชอบโกหก เป็นคนชอบช่วยเหลือเพื่อนๆ และชอบทำบุญมากๆ จะรักเพื่อนมากกว่าแฟนตัวเอง (หัวเราะ)  ถ้าใครไม่ได้ใกล้ชิดจะคิดว่าเป็นคนแรง แต่จริงๆ แข็งนอกอ่อนใน บางครั้งก็เป็นคนที่จริงใจกับเพื่อนมากเกินไป”

เนื่องจากคุณแพ๊ทเป็นคนที่เติบโตในต่างแดน เมื่อถามถึงมุมมองต่อสังคมไทยในปัจจุบัน เธอก็นิ่งคิดครู่ใหญ่

“แพ๊ทมองว่า สังคมไทยเป็นสังคมอุปถัมภ์ แต่ในขณะเดียวกันวัฒนธรรมต่างชาติก็กำลังเข้ามามีบทบาทในสังคมไทยมากค่ะ ที่น่าเป็นห่วงคือ คนไทยไม่รักการอ่านเท่าที่ควร เด็กไทยอ่านหนังสือน้อยมากๆ เฉลี่ยประมาณ 5-10% อยากให้ทุกคนฝึกนิสัยรักการอ่านอย่างน้อยข่าวรอบๆตัว และฝึกนิสัยการออม และวินัยในการอยู่กับคนหมู่มาก รวมถึงการทำวิจัย เมืองนอกรัฐบาลจะลงทุนกับการวิจัยมากๆ เพราะทำให้คนได้เรียนรู้และฉลาด อยากให้ความรู้กับทุกคนในการต่อยอดเงินทองที่มีอยู่ “ อยากให้ทุกคนเป็นนายของเงิน และรู้จักการลงทุน คืออะไร ความรู้จะทำให้เรากล้าตัดสินใจ ไม่กลัว แพ๊ทอยากบอกว่า คนเราไม่ควรกลัวมากไปในสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ต้องกล้าเผชิญกับความจริง และพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ต้องตั้งเป้าหมายในชีวิต ชีวิตคนเราเปรียบเหมือนการเดินทาง เราต้องวางแผน การทำงานก็ต้อง…เอาใจเขามาใส่ใจเรา ต้องลงรายละเอียด”

ถึงงานของคุณแพ๊ทจะหนัก แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะดูแลชีวิตเป็นอย่างดีในทุกด้าน

“แพ๊ทให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายค่ะ  Fitness ที่บ้านถ้ามีโอกาส และเป็นคนชอบทานผักและผลไม้เป็นประจำจะขาดผลไม้ในตู้เย็นไม่ได้เลย แพ๊ทไม่ค่อยชอบทำอะไรกับใบหน้าเพราะผิวบอบบาง และ Sensitive มากๆ แต่จะใช้เครื่องบำรุงผิวที่ดี เช่น La Mer”

“ในเรื่องการแต่งกายด้วยตำแหน่งและหน้าที่การงาน ต้องพบปะผู้คนหลากหลาย และต้องออกงานสังคมบ่อยๆ ตัวแพ๊ทจะเลือกเสื้อผ้าที่เหมาะกับงานที่เราจะไป ด้วยส่วนตัวเป็นคนชอบชอบปิ้งมากๆ ตอนอยู่ นิวยอร์ก ชอบไป Shopping ที่ Bergdorf Goodman,Saks Fifth  Avenue เพราะใกล้บ้านเดินถึงกันได้โดยเดินผ่านตรง Central  Park  ปกติจะเลือกซื้อ Brand และ Pattern  รวมถึง Cutting เช่น Emporio Armani, Designer: Laundry by Shelli segal and Gucci ส่วนมากจะเป็นสูทหรือ Dress  ถ้าเป็นรองเท้าก็ชอบ Prada, Jimmy Choo โดยมากจะซื้อตอน Big Sale เพื่อนๆ ก็เรียกแพ๊ทว่า “deals girl” ถ้าไม่ลดราคาคงไม่ได้เงินแพ๊ทค่ะ เพราะเมืองนอกถ้าลดเยอะจริงๆจะถูกกว่าเมืองไทยหลายเท่า เป็นคนชอบแต่งตัวตั้งแต่เด็ก ชอบซื้อและเก็บของ ถ้าเป็นเครื่องประดับชอบ Tiffany&Co. เพราะแฟนขอแต่งงานด้วยแหวน Tiffany ส่วนเสื้อผ้าทั่วไปไม่จำกัด Brand แต่ขอให้ใส่แล้วดูดี ถ้าเรารู้จัก Mix & Match”

“ถ้ามีเวลาว่าง แพ๊ทชอบการท่องเที่ยวและเดินทางไปทั่วโลกมากๆ เพราะการเดินทางเป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมและสิ่งใหม่ของแต่ละประเทศ  เป็นการเปิดโลกกว้างและ รับสิ่งใหม่เข้ามา ประเทศที่โปรดมาก คือJordan(Petra Dead Sea , Rajasthan India  สิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่ต้องเห็นก่อนโลกแตก เพราะลงไปในน้ำทะเลแล้วลอยได้ชอบลองอาหารใหม่ๆ ชอบ Cooking  กีฬาที่ชอบ Play Golf, Ski”

ด้วยนิสัยที่เป็นคนกล้าคิดกล้าแสดงออก รักเพื่อน และทนเห็นใครถูกรังแกหรือถูกเอาเปรียบไม่ได้ต้องคอยช่วยเหลือตลอด ความใฝ่ฝันในวัยเด็กของสาวเก่งคนนี้คืออยากเป็นทนายคอยช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาสและโดนเอาเปรียบ ส่วนความฝันในตอนโตนั้นยิ่งน่าตื่นเต้นกว่า เพราะเธออยากเป็น CEO คุม ASEAN

“ชิวิตในปัจจุบันนี้มีความสุขและสนุกกับงานทุกวันค่ะ เพราะเป็นคนค่อนข้างจะบ้างาน  แพ๊ทอยากมีร้านอาหารเล็กๆที่ต้องจองเป็นเดือน อย่าง Iron Chef เพราะเป็นคนชอบทำอาหารให้เพื่อนๆทาน และอยากเปิดโรงเรียนสอนเกี่ยวกับ Global Trading in Asean”

คุณแพ๊ทปิดท้ายบทสัมภาษณ์บทสนทนาด้วยรอยยิ้มเปิดเผย ที่บ่งบอกถึงความเป็นมิตรและความจริงใจในแบบฉบับของสาวมั่น ซึ่งการเปิดใจบอกเล่าเรื่องราวดีๆของเธอคนนี้ ก็คงเป็นแรงบันดาลใจให้สาวๆ (และหนุ่มๆ) หลายคนอยากลุกขึ้นมาทำอะไรสนุกๆกับชีวิตอย่างเต็มที่ ไล่ตามความฝัน และมีไลฟ์สไตล์ที่น่าอิจฉาอย่างเธอบ้างแน่ๆ

Related posts:

You may also like...